Future Perfect Tense = Subject + will + have + Verb3
1. ใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่ที่คาดว่าจะเสร็จในวันเวลาที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า
This project will have completed by next month.
(โปรเจคนี้จะเสร็จภายในเดือนหน้า)
2. ใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นล่วงหน้าโดยที่มีอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นทีหลังโดย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน จะใช้ Future Perfect Tense และ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง จะใช้ Present Simple Tense
He will have left when you arrive. (ตอนที่คุณมาถึงเขาคงจะออกไปแล้ว) จากตัวอย่างผู้พูดต้องการจะบอกว่า “คุณไม่ต้องมาหรอกเพราะกว่าคุณจะมาถึงเขาก็คงออกไปแล้วหละ”
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคปฏิเสธ
ใน tense นี้เราจะใช้ will ที่อยู่ในประโยคมาทำให้ปฏิเสธได้เลย โดย will + not
ประโยคบอกเล่า He will have left. (เขาคงจะออกไปแล้ว)
ประโยคปฏิเสธ He won’t have left. (เขาคงจะยังไม่ออกไปแล้วหรอก)
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคคำถาม
ใน tense นี้เราจะใช้ will ที่อยู่ในประโยคมาทำให้ประโยคคำถามได้เลย โดย will + ประธาน + have + verb หลัก หรือที่เรียกกันว่า main verb
ประโยคบอกเล่า He will have left. (เขาคงจะออกไปแล้ว)
ประโยคปฏิเสธ He won’t have left. (เขาคงจะยังไม่ออกไปแล้วหรอก)
ประโยคคำถาม Will he have left? (เขาคงจะยังไม่ออกไปใช่มั้ย)
ตอบ Yes, he will. (ใช่เข้ายังไม่ออกไป) หรือ No, he won’t. (ไม่เขาเพิ่งไปแล้ว)
ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ Won’t he have left. (เขาคงจะยังไม่ออกไปแล้วใช่มั้ย)
ตอบ Yes, he will. (ใช่เข้ายังไม่ออกไป) หรือ No, he won’t. (ไม่เขาเพิ่งไปแล้ว)
อ่านเพิ่มเติม >>>