Present Perfect Continuous Tense = Subject + has/have + been + V.-ing
ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน
She has been waiting for an hour. (เธอรอมานานเป็นชั่วโมง) *จากตัวอย่างนี้นะคะ ประโยคนี้จะแสดงให้เห็นเลยว่า รออยู่ตลอดเวลาไม่ได้ไปไหน รออยู่ที่เดิมเป็นชั่วโมง
แต่ถ้าหากใช้ present perfect “She has waited for an hour.” ประโยคนี้จะแปลว่า “เธอเป็นชั่วโมง”
ความหมายคล้ายกันแต่บริบทต่างกันเพราะการรอในตัวอย่างที่สองจะเป็นการรอแบบไม่ได้ใจจดใจจ่อรอ อาจะมีการไปทำอะไรฆ่าเวลาในระหว่างรอก็ได้ ซึ่งต่างกับประโยคแรกที่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างเดียว
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคปฏิเสธ
ใน tense นี้ให้นำ verb to have ในประโยคมาทำเป็นปฏิเสธ โดยที่นำ verb to have + not
ประโยคบอกเล่า She has been waiting for an hour. (เธอรอมานานเป็นชั่วโมง)
ประโยคปฏิเสธ She has not been waiting for an hour. (เธอไม่ได้รอมานานเป็นชั่วโมง)
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคคำถาม
ใน tense นี้เราสามารถนำเอา verb to have ในประโยคมาทำเป็นประโยคคำถามได้เลย โดยการนำ verb to have + ประธาน+ been + verb หลัก หรือที่เรียกกันว่า main verb
ประโยคบอกเล่า She has been waiting for an hour. (เธอรอมานานเป็นชั่วโมง)
ประโยคปฏิเสธ She has not been waiting for an hour. (เธอไม่ได้รอมานานเป็นชั่วโมง)
ประโยคคำถาม Has she been waiting for an hour? (เธอรอมานานเป็นชั่วโมงใช่มั้ย)
ตอบ Yes, she has. (ใช่เธอรอ) หรือ No, she hasn’t. (ไม่เธอไม่ได้รอ) จากตัวอย่างการตอบจะตอบในโครสร้างเดียวกันกับ present perfect เนื่องจาก tense ทั้งสองนั้นเหมือกันในแง่ของความแต่ต่างกันในแง่ของความถี่จึงสามารถตอบคำภามโดยใช้โครงสร้างเดียวกันได้
ประโยคคำถามในเชิงปฏิเสธ Hasn’t she been waiting for an hour?
(เธอไม่ได้รอมานานเป็นชั่วโมงใช่มั้ย)
อ่านเพิ่มเติม >>>