Present Perfect Tense = Subject + has/have + Verb3
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มว่าจะเกินขึ้นต่อไปในอนาคตหรือใช้บอกระยะเวลา
I have studied. (ฉันเรียนอยู่) *จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า “เมื่อก่อนฉันเรียนอยู่จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังเรียนอยู่และในอนาคตฉันก็ยังเรียนอยู่”
I have lived in London for five years. (ฉันอยู่ที่ลอนดอนมาเป็นเวลา 5 ปี)
This company has established since 1994. (บริษัทนี้ก่อตั้งในปี 1994)
2. ใช้บอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หรือ เพิ่งจะสิ้นสุดในเร็วๆนี้
I have just finished my housework. (ฉันเพิ่งทำงานบ้านเสร็จ)
I have met her lately. (ฉันเพิ่งได้เจอเธอเมื่อเร็วๆนี้เอง)
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคปฏิเสธ
ใน tense นี้ให้นำ verb to have ในประโยคมาทำเป็นปฏิเสธ โดยที่นำ verb to have + not
verb to have | ||
Present (V1) | Past (V2) | Past participle (V3) |
have/has | had | had |
ประธาน | verb to have | ประธาน | verb to have |
I You We They | have | He She It | has |
ประโยคบอกเล่า I have studied. (ฉันเรียนอยู่)
ประโยคปฏิเสธ I have not studied. (ฉันไม่ได้เรียนอยู่) ในที่จะมีความหมายแฝงว่า เรียนจบแล้วนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า have ใน tense นี้ ไม่ได้แปลว่า “มี” นะคะ แต่เป็นคำที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้โครงสร้างประโยคนั้นสมบูรณ์ ฉะนั้นเราจึงจะไม่แปลคำว่า have นะคะ ละความหมายคำนี้ได้เลย
ประโยคบอกเล่า This company has established since 1994. (บริษัทนี้ก่อตั้งในปี 1994)
ประโยคปฏิเสธ This company hasn’t established since 1994. (บริษัทนี้ไม่ได้ก่อตั้งในปี 1994)
การเปลี่ยนให้เป็นประโยคคำถาม
ใน tense นี้เราสามารถนำเอา verb to have ในประโยคมาทำเป็นประโยคคำถามได้เลย โดยการนำ verb to have + ประธาน + verb หลัก หรือที่เรียกกันว่า main verb
ประโยคบอกเล่า I have eaten. (ฉันเพิ่งจะทานข้าวไปเอง) อีกในหนึ่งคือ อิ่มอยู่
ประโยคปฏิเสธ I have not eaten. (ฉันยังไม่ได้ทานข้าว)
ประโยคคำถาม Have you eaten? (คุณทานข้าวรึยัง)
ตอบ Yes, I have. (ใช่ฉันทานแล้ว) หรือ No, I haven’t. (ไม่ฉันยังไม่ทาน)
ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ Haven’t you eaten? (คุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่มั้ย)
ตอบ Yes, I have. (ใช่ฉันทานแล้ว) หรือ No, I haven’t. (ไม่ฉันยังไม่ทาน)
อ่านเพิ่มเติม >>>