คำศัพท์ภาษาอังกฤษต่อไปนี้ มีความหมายเหมือนคล้ายกันกันแต่ใช้ต่างกัน
เนื่องจากภาษาเป็นสิ่งที่ไม่ตายตัว ไม่สามารถหาคำตอบหรือให้เหตุผลได้แน่ชัดเหมือนการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ซึ่งได้คำตอบออกมาชัดเจน คำหลายๆคำก็มีความหมายแตกต่างกัน เหมือนกัน และคล้ายกัน ซึ่งทำให้หลายๆท่านสับสนและไม่แน่ใจในการใช้ ดังนั้นเรามาดูคำที่มีความหมายเหมือนกันคล้ายกัน ว่ามีวิธีการใช้อย่างไรกันค่ะ
1. price value cost
price ราคา ตัวนี้เน้นที่ป้ายราคา
value มูลค่า
cost ราคา ตัวนี้เน้นที่ตัวสินค้า
2. say speak talk
ใช้ต่างกันอย่างไรนั้น แล้วแต่ว่าสถานการณ์นั้นพูดถึงอะไรค่ะ ต้องดูเนื้อหาประกอบด้วยนะคะ มันแค่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน ซึ่งบางกรณีจะใช้แทนกันไม่ได้เลย
talk ไม่เป็นทางการ แปลว่า คุย
speak เป็นทางการกว่า แปลว่า พูด
say มักเป็นการกล่าวอ้างถ้อยคำ แปลว่า บอก หรือ กล่าว
Examples
I speak five languages. ฉันพูดได้ห้าภาษา =ในแง่นี้จะใช้อีกสองคำนั้นไม่ได้ค่ะCan you speak English? คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่
I don’t like to talk to people. หมายถึงการพูดคุยหรือสนทนากับผู้คน==> ฉันไม่ชอบคุยกับคนอื่น
I don’t like to speak to people.หมายถึงการออกไปพูดในที่สาธารณะ==>ฉันไม่ชอบพูดต่อหน้าสาธารณะชน
I say, she says, he says, they say อ้างข้อความ คนนั้นคนนี้พูดว่า… หรือ คนนั้นคนนี้บอกว่า…
3. A little, Little
ทั้งสองคำนี้ใช้กับนามนับไม่ได้เท่านั้น ซึ่งไม่มีการเติม “s”
“A little” มีความหมายเหมือนกับ A few เช่น……
He puts a little milk and sugar in his coffee. เขาใส่นมและน้ำตาลเล็กน้อยลงในกาแฟ
“little” มีความหมายเช่นเดียวกับ Few เช่น ……
Love me little, love me long. จงรักฉันแต่น้อย แต่รักฉันให้นานๆ(นะจ๊ะ)
คำศัพท์ที่ความหมายเหมือนคล้ายกันกันแต่ใช้ต่างกัน (ต่อ)
4. Accept, Agree
“Accept” หมายถึง ยอมรับ (สิ่งของ, ข้อเท็จจริง ,คำเชิญ) เช่น…
He accepted her gift.
เขายอมรับของขวัญจากเธอ
We accepted his invitation.
เรายอมรับคำเชิญของเขา
“Agree” หมายถึง เห็นด้วย ,เห็นชอบด้วย เช่น …
I agree with you in that case.
ฉันเห็นด้วยกับคุณในกรณีนั้น
He did not agree to the plan.
เขาไม่เห็นด้วยกับแผนการนั้น
5. Afraid, Fear
“Afraid” เป็น Adjective ใช้ในรูป To + be + afraid + object
She is afraid of dog.
เธอกลัวสุนัข
“Fear” เป็นกิริยาและคำนาม
1) ถ้าเป็นรูป to fear + กรรม เช่น
She fears dog.
เธอกลัวสุนัข
2) ในกรณีเป็นคำนามเช่น…
I don’t want to walk in the garden for fear of dog.
ฉันไม่ต้องการเดินในสวน กลัวสุนัข
6. Among, Between
“Among” มีความหมายว่า “ท่ามกลาง”ใช้กับคำนามที่มีมากกว่า 2 เช่น….
He is standing among five of his sons.
เขายืนอยู่ท่ามกลางลูกชายทั้ง 5 คนของเขา
“Between” มีความหมายว่า “ระหว่าง” ใช้กับนามที่มีอยู่เพียงสองเท่านั้น เช่น…
Jannie is sitting between Ann and Mary.
เจนนี่นั่งอยู่ระหว่างแอนและแมรี่
7. Everyday, Every day
“Everyday” เขียนติดกัน ใช้เป็น adjective เช่น …
Tell me about your everyday life.
จงบอกฉันเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคุณ
“Every day” เขียนแยกกัน ทำหน้าที่เป็น Adverb เช่น…
I saw him almost every day.
ฉันเห็นเขาเกือบทุกวัน